กระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคม ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 6.61 เมื่อเทียบจากเดือนก่อน ตอบรับการบริโภคในประเทศฟื้นตัวหลังเศรษฐกิจและ การท่องเที่ยวขยายตัว ด้านสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคมปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 6.61 เมื่อเทียบจากเดือนก่อน โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่ร้อยละ 62.31 มาจากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศและการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติที่กลับเข้ามาท่องเที่ยวในไทยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี อุตสาหกรรมที่เน้นตลาดในประเทศ รวมถึงที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวหลายอุตสาหกรรมยังขยายตัวได้ดี อาทิ การกลั่นน้ำมัน รถยนต์ จักรยานยนต์ รองเท้า กระเป๋า และเครื่องดื่ม ถึงแม้อุปสงค์ในตลาดโลกมีแนวโน้มชะลอตัวจาก การชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศสำคัญของโลกทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกา และฐานในปีก่อนอยู่ในระดับสูง
นางวรวรรณ ชิตอรุณ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) กล่าวว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ระดับ 99.82 โดยอุตสาหกรรมหลักที่ขยายตัวในเดือนมกราคม 2566 ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม จากการเดินทางที่ขยายตัวขึ้นจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและการเดินทางในเทศกาลปีใหม่ ยานยนต์ จากรถยนต์นั่งขนาดกลางและรถยนต์นั่งขนาดเล็กที่ตลาดส่งออกขยายตัว และน้ำมันปาล์ม จากปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดจำนวนมากกว่าปีก่อนและการส่งออกที่ขยายตัว ทั้งนี้ คาดการณ์ดัชนีMPI เดือนกุมภาพันธ์ 2566 มีปัจจัยบวกจากเศรษฐกิจในประเทศที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง หลังได้รับ แรงส่งของภาคการท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศมีแนวโน้มสูงขึ้นตามลำดับ รวมถึงมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายช้อปดีมีคืน หนุนการบริโภคในประเทศ ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่ควรเฝ้าระวังและติดตาม ได้แก่ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง การเปลี่ยนแปลงห่วงโซ่การผลิตของชาติมหาอำนาจที่ส่งผลให้เกิดการย้ายฐานและกระทบต่อการนำเข้า–ส่งออกสินค้า
ทั้งนี้ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ปี 2566 คาดว่าขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 และผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ภาคอุตสาหกรรม ปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 – 2.5 โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งภายในและต่างประเทศประกอบกับประเทศจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง แนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศมีทิศทางที่ดีขึ้น การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวโดยเฉพาะในภาคบริการ และมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ เช่น ช้อปดีมีคืน เราเที่ยวด้วยกัน ฯลฯ รวมถึงในปีนี้จะมีการเลือกตั้งที่จะเป็นปัจจัยกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยเสี่ยง ที่ควรเฝ้าระวังและติดตามในปีนี้ ได้แก่ ทิศทางเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทิศทางราคาพลังงานที่อยู่ในระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น และภาระหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง
สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่ส่งผลบวกต่อดัชนีผลผลิตในเดือนมกราคม 2566 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ได้แก่
น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.96 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องบิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 และน้ำมันเบนซิน 95 เพื่อใช้ในการเดินทางของนักท่องเที่ยวต่างชาติและการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่
ยานยนต์ ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.79 จากรถยนต์นั่งขนาดกลางและรถยนต์นั่งขนาดเล็ก เนื่องจากได้รับชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น
น้ำมันปาล์ม ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 69.23 จากผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์มดิบ และน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ โดยปีนี้ปริมาณผลผลิตปาล์มน้ำมันออกสู่ตลาดจำนวนมาก รวมถึงการเร่งผลิตเพื่อรองรับการส่งออกที่เพิ่มขึ้น
น้ำตาล ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 8.94 เนื่องจากปีนี้มีผลผลิตอ้อยเข้าหีบปีนี้มากกว่าปีก่อน
เภสัชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ที่ใช้รักษาโรค ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 17.83เนื่องจาก มีความต้องการยาที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 รวมถึงการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวทำให้ความต้องการบริโภคยา ในพื้นที่ท่องเที่ยวมีเพิ่มมากขึ้น