นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเดือนมกราคม 2566 อยู่ที่ 161.49 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 6.2 โดยการใช้กลุ่มดีเซลเพิ่มขึ้นร้อยละ3.1 น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) เพิ่มขึ้นร้อยละ 102.7 น้ำมันเตาเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 NGV เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.0 และการใช้กลุ่มเบนซินเพิ่มขึ้นร้อยละ 1.5 ขณะที่ LPG และน้ำมันก๊าดมีการใช้ลดลงร้อยละ 3.8 และร้อยละ 19.2 ตามลำดับ ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2565 เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี ประกอบกับมีการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติให้ความสนใจเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย และคนไทยมีการเดินทางข้ามจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

การใช้น้ำมันกลุ่มเบนซินเดือนมกราคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 31.00 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกัน
ของปีก่อนร้อยละ 1.5 สำหรับการใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 17.70 ล้านลิตร/วัน ขณะที่การใช้แก๊สโซฮอล์ 91
แก๊สโซฮอล์ อี20 แก๊สโซฮอล์ อี85 และเบนซินลดลงมาอยู่ที่ 6.87 ล้านลิตร/วัน 5.64 ล้านลิตร/วัน0.32 ล้านลิตร/วัน และ 0.47 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ

การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซลเดือนมกราคม 2566เฉลี่ยอยู่ที่ 78.25 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ร้อยละ 3.1 เนื่องจากมาตรการช่วยเหลือโดยตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 35 บาท/ลิตร มาตรการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลจนถึงวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 และการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนและภาคธุรกิจภายใต้สถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกที่ยังคงผันผวนสูง สำหรับน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 การใช้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 66.09 ล้านลิตร/วัน และน้ำมันดีเซลพื้นฐานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 10.84 ล้านลิตร/วัน ขณะที่น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดาและน้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี20 มีปริมาณการใช้ลดลงมาอยู่ที่ 1.17 ล้านลิตร/วัน และ 0.16 ล้านลิตร/วัน ตามลำดับ

การใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1)เดือนมกราคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 14.16 ล้านลิตร/วัน เพิ่มขึ้น
จากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 102.7 เนื่องจากนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางเนื่องจากช่วงเทศกาลปีใหม่

การใช้ LPG เดือนมกราคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 16.55 ล้านกก./วัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 3.8 เนื่องจากภาคปิโตรเคมีลดลงมาอยู่ที่ 6.35 ล้านกก./วัน ลดลงร้อยละ 15.8 ขณะที่การใช้ในภาคขนส่ง ภาคครัวเรือน และภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยภาคขนส่งอยู่ที่ 2.28 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.7 ภาคครัวเรือนอยู่ที่ 5.96 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.6 และภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ 1.97 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.1

การใช้ NGV เดือนมกราคม 2566 เฉลี่ยอยู่ที่ 3.47 ล้านกก./วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 9.0
เป็นผลมาจากการเดินทางของประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่

การนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเดือนมกราคม 2566เฉลี่ยอยู่ที่ 1,089,016 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 7.2 เนื่องจากความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น เป็นการนำเข้า้ำมันดิบอยู่ที่ 972,880 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.0โดยมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบอยู่ที่ 94,621 ล้านบาท/เดือน เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 สำหรับการนำเข้าน้ำมันสำเร็จรูป (น้ำมันเบนซินพื้นฐาน น้ำมันดีเซลพื้นฐาน น้ำมันเตา น้ำมันอากาศยาน และ LPG) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 116,136 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.0 คิดเป็นมูลค่าการนำเข้ารวม 11,326 ล้านบาท/เดือน

การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูปเดือนมกราคม 2566เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล น้ำมันเตา
น้ำมันอากาศยาน น้ำมันก๊าด และ LPG โดยปริมาณส่งออกอยู่ที่ 122,825 บาร์เรล/วัน ลดลงร้อยละ 18.6 คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม 13,636 ล้านบาท/เดือน ลดลงร้อยละ 6.8