สมาคมเคมีแห่งประเทศไทย ในพระอุปถัมภ์ฯ ร่วมกับ กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) และพันธมิตร จัดการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วยเทคนิคปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน “Dow–CST Award 2568” ในหัวข้อ “เคมีกรีน (Green Chemistry)” ภายใต้โครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว” (Dow Chemistry Classroom)  เปิดโอกาสให้เยาวชนไทยจากทั่วประเทศร่วมแสดงศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ พร้อมส่งเสริมการเรียนรู้เชิงประยุกต์และปฏิบัติที่ปลอดภัย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จุดประกายให้เยาวชนไทยรักการเรียนรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คิดเป็น ทำเป็น และมองเห็นว่าพลังของเคมีสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อพัฒนาโลกอย่างยั่งยืนได้จริง

การประกวด DOW-CST Award เป็นความร่วมมือระหว่างกลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) สมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ (CST) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ (สพฐ.) สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนไทยเรียนรู้วิทยาศาสตร์ผ่านการทดลองจริงด้วยเทคนิค “เคมีย่อส่วน” ซึ่งใช้สารเคมีในปริมาณน้อย ปลอดภัย ประหยัด และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เปิดโอกาสให้นักเรียนได้เรียนรู้จากการลงมือปฏิบัติจริง สนุกกับการทดลอง และมองเห็นว่าความรู้ทางเคมีสามารถนำไปต่อยอดสร้างสรรค์สิ่งดีให้กับโลกได้

ในปีนี้ มีเยาวชนกว่า 600 คนจาก 23 จังหวัดทั่วประเทศ ส่งผลงานเข้าประกวดมาทั้งสิ้น 171 ทีม โดยคณะกรรมการได้คัดเลือกทีมที่มีผลงานโดดเด่น 35 ทีมสุดท้าย แบ่งเป็นระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 11 ทีม และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย 24 ทีม เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเพื่อลุ้นรางวัลรวมมูลค่ากว่า 160,000 บาท ณ อาคาร ทรู ดิจิทัล พาร์ค กรุงเทพมหานคร

นายวิชาญ ตั้งเคียงศิริสิน ประธานบริหาร กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า “Dow เชื่อมั่นในพลังของวิทยาศาสตร์ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และเชื่อมั่นในศักยภาพของเยาวชนไทยที่มีความคิดสร้างสรรค์และหัวใจรักษ์โลก โครงการห้องเรียนเคมีดาวจึงไม่เพียงมอบโอกาสให้เด็กไทยได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์จากการลงมือทำจริง แต่ยังจุดประกายให้พวกเขาเชื่อมั่นในพลังของตนเอง ว่าวิทยาศาสตร์สามารถเป็นเครื่องมือในการสร้างสังคมที่ดีขึ้นและโลกที่ยั่งยืนได้จริง”

รศ.ดร.วราภรณ์ พาราสุข อุปนายกสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า “ความงดงามของโครงการนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่คือการได้เห็นประกายความคิดสร้างสรรค์จากเยาวชนทั่วประเทศ ที่เปลี่ยนห้องเรียนธรรมดาให้กลายเป็นแหล่งบ่มเพาะนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ เด็ก ๆ เหล่านี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าการเรียนเคมีไม่จำเป็นต้องอยู่แค่ในตำรา แต่สามารถกลายเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาจริงของสังคมได้อย่างสร้างสรรค์ โครงการ Dow–CST Award จึงเป็นเวทีแห่งแรงบันดาลใจที่ปลุกพลังของ ‘นักคิดและนักทำ’ ตัวจริงของประเทศไทย”

นายเอกสิทธิ์ ปิยะแสงทอง ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาการศึกษาสำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้คือภาพของการเรียนรู้ที่มีชีวิต การที่เด็ก ๆ ได้ลงมือทดลองจริงและเรียนรู้จากประสบการณ์ตรง ทำให้พวกเขาคิดเป็น ทำเป็น และแก้ปัญหาเป็น ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการศึกษายุคใหม่ โครงการห้องเรียนเคมีดาวได้ช่วยเสริมพลังให้ครูไทยมีเครื่องมือการสอนที่มีคุณภาพ และช่วยปลูกฝังให้เด็ก ๆ รักวิทยาศาสตร์อย่างยั่งยืน สพฐ. ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ เพราะนี่คือการสร้างรากฐานของคนคุณภาพเพื่ออนาคตของประเทศ”

ผลการแข่งขันในปีนี้สร้างความภาคภูมิใจให้กับทุกภาคส่วน โดย 1) รางวัลยอดเยี่ยมระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตกเป็นของ โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาเปร็งวิสุทธาธิบดี จ.ฉะเชิงเทรา จากผลงาน “ตะกอนเล่าเรื่อง ปริมาณสารสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ในสมการเคมี” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี  2) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนสตูลวิทยา จ.สตูล จากผลงาน “ชุดการทดลองการแพร่ของแก็สด้วยสารสกัดแอนโทไซยานินจากพืชในท้องถิ่น” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท 3) รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย กรุงเทพฯ และ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) กรุงเทพฯ ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท

ผลการแข่งขันในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบด้วย 1) รางวัลยอดเยี่ยม ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท พร้อมโล่เกียรติยศจากศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ได้แก่ โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา จากผลงาน “Ocean in Trouble: เมื่อ CO2 บุกทะเล” 2) รางวัลดีเด่น ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย จากผลงาน “การสกัดสารแอนโทไซยานินจากพืชเพื่อทำเม็ดเจลอินดิเคเตอร์ธรรมชาติ” ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท 3) รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ โรงเรียนดีบุกพังงาวิทยายน จ.พังงา และ โรงเรียนบ้านราโมง จ.ยะลา ได้รับเงินรางวัลทีมละ 5,000 บาท

ในปีนี้ โครงการฯ ยังได้มอบรางวัลพิเศษ “Dow Chemistry Influencer Award” สำหรับทีมที่สร้างสรรค์คลิปวิดีโอหัวข้อ “ประโยชน์ของการทดลองเคมีแบบย่อส่วน” และได้รับยอดไลก์สูงสุดบน TikTok  โดยได้รับทุนการศึกษามูลค่า 8,000 บาท ได้แก่ โรงเรียนสุรวิวัฒน์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จ.นครราชสีมา นอกจากนี้ โครงการฯ ยังได้มอบรางวัลพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ “Positive Environmental Impact Award” สำหรับทีมที่มีการทดลองซึ่งนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ระดับ ม.ต้น ได้แก่ โรงเรียนบ้านราโมง จ.ยะลา ระดับ ม.ปลาย ได้แก่ โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัยสมบูรณ์กุลกันยา จ.สงขลา  “Inspiration Award” สำหรับทีมที่สร้างสรรค์การทดลองที่ตอบโจทย์ปัญหาในชุมชนหรือสังคม ระดับ ม.ต้น ได้แก่ โรงเรียนเลิร์นสาธิตพัฒนา กรุงเทพฯ ระดับ ม.ปลาย ได้แก่ โรงเรียนปราจีนกัลยาณี จ.ปราจีนบุรี “Innovation Award” สำหรับทีมที่มีการทดลองโดดเด่นด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ระดับ ม.ต้น ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ระดับ  ม.ปลาย ได้แก่ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย จ.ลพบุรี และ “Presentation Award” สำหรับทีมที่มีการสื่อสารอย่างชัดเจนและทรงพลัง ระดับ ม.ต้น ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย ระดับ ม.ปลาย ได้แก่ โรงเรียนชลกันยานุกูล จ.ชลบุรี ซึ่งได้รับเงินรางวัลพิเศษรางวัลละ 2,000 บาท

ตลอดระยะเวลากว่า 12 ปีของการดำเนินโครงการ “ห้องเรียนเคมีดาว” Dow และสมาคมเคมีแห่งประเทศไทยฯ ได้ร่วมกันส่งเสริมการเรียนรู้วิชาเคมีให้กับเยาวชนไทยกว่า 660,000 คน จากกว่า 2,100 โรงเรียนทั่วประเทศ ผ่านการอบรมครู การแข่งขัน และการทดลองจริงที่ทั้งปลอดภัยและเข้าถึงได้ โครงการนี้ไม่เพียงช่วยพัฒนาเยาวชนให้มีทักษะทางวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่ง แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้สารเคมีน้อยลง ลดของเสีย และประหยัดพลังงานในห้องเรียน

การประกวด Dow–CST Award จึงไม่ใช่เพียงการค้นหาผู้ชนะ หากแต่คือการสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยได้ตระหนักว่า “เคมี” คือเครื่องมือในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับโลก เป็นเวทีที่หล่อหลอมให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ ลงมือทำ และเติบโตเป็นนักคิดนักสร้างสรรค์รุ่นใหม่ ที่จะขับเคลื่อนประเทศไปสู่อนาคตที่ยั่งยืน

ผู้ที่สนใจแนวทางการเรียนการสอนด้วยเทคนิคการทดลองเคมีแบบย่อส่วน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dowchemistryclassroom.com