นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) กล่าวว่าผู้บริโภค เริ่มให้ความสนใจ เสื้อผ้าที่ผลิตจากวัสดุสิ่งทอรีไซเคิล (Textile recycling)มากขึ้น  จากผลกระทบเรื่องสิ่งแวดล้อม  ประเทศไทยมีการคาดการณ์ว่ามูลค่าตลาดเสื้อผ้าที่ทำมาจากวัสดุสิ่งทอรีไซเคิลปี 2575 จะอยู่ที่ 1.3 พันล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 0.5 ของมูลค่าตลาดเสื้อผ้าทั้งหมดของไทย  โดยมีผู้ประกอบการไทยหลายรายปรับตัวมาผลิตเสื้อผ้าจากวัสดุสิ่งทอรีไซเคิล อาทิ แบรนด์ Circular ได้นำเศษผ้าและเสื้อผ้าเก่าไปแปลงสภาพเป็นสิ่งทอรีไซเคิลที่นำไปผลิตเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า และเฟอร์นิเจอร์ เพื่อขายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงแบรนด์ Moreloop ที่เป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ได้นำผ้าที่เหลือจากกระบวนการผลิตของโรงงานเสื้อผ้ามาผลิตเป็นเสื้อผ้าและกระเป๋า อีกทั้งยังนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการสร้างแพลตฟอร์มเพื่อเป็นตัวกลางระหว่างโรงงานที่ต้องการขายผ้าเหลือ และผู้ซื้อต้องการผ้าในตลาดออนไลน์

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการส่งออกสิ่งทอรีไซเคิล สามารถดำเนินการจัดทำมาตรฐานที่ทั่วโลกให้การยอมรับซึ่งโดยส่วนใหญ่อยู่บนหลักความสมัครใจ อาทิ Global Recycle Standard (GRS) คือ มาตรฐานระหว่างประเทศที่ได้รับการรับรองจากองค์กรด้านสิ่งทอในต่างประเทศ เพื่อบ่งบอกว่าบริษัทผลิตสินค้าที่มาจากการรีไซเคิลที่ยั่งยืน รวมทั้งการใช้วัตถุดิบรีไซเคิลที่เป็นมิตรต่อคนและสิ่งแวดล้อม รวมถึง OEKO-TEX® Standard 100 คือ การทดสอบมาตรฐานสินค้าระดับสากลของสถาบันทดสอบสิ่งทอ (The International Association for Research and Testing in the Field of Textile Ecology) โดยใช้การทดสอบทางวิทยาศาสตร์ ตรวจสารตกค้างในผลิตภัณฑ์สิ่งทอ ตรวจสอบในเรื่องของกระบวนการผลิตและการประกันคุณภาพสินค้า ในขณะเดียวกันผู้ประกอบการจะต้องศึกษา ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบของประเทศคู่ค้าควบคู่กันไปด้วย อาทิ สหภาพยุโรป มีฉลากสิ่งแวดล้อมแห่งสหภาพยุโรป (EU Ecolabel/EU Flower) ที่ระบุสรรพคุณสินค้าได้ว่ามีมาตรฐานทางสิ่งแวดล้อมที่สูงและเป็นมิตรต่อทั้งผู้ใช้และสิ่งแวดล้อม สหราชอาณาจักร มีฉลากชนิดเส้นใยและอัตราส่วนผสม (Fiber name and fiber composition) เพื่อระบุชื่อเส้นใยหรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ตามที่กฎหมายระบุให้ประชาชนรับทราบ

ตลาดเสื้อผ้าที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลนับเป็นโอกาสใหม่ทางธุรกิจที่น่าจับตามองในอนาคต เนื่องจากแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความตระหนักในการรักษาสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น ภาครัฐจึงควรให้การสนับสนุนแก่ผู้ประกอบการทั้งเรื่องการส่งเสริมองค์ความรู้และการพัฒนาเทคโนโลยี เพื่อยกระดับศักยภาพการผลิตเสื้อผ้ารีไซเคิลของไทย นอกจากนี้ ผู้ประกอบการควรศึกษาและปฏิบัติ ตามกฎระเบียบและการรับรองมาตรฐานสิ่งทอที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของประเทศคู่ค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน และขยายช่องทางการตลาดระดับโลกโดยเฉพาะคู่ค้าที่ให้ความสำคัญแก่สิ่งแวดล้อม

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์