การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืน คือสิ่งที่ทุกองค์กรปรารถนา ในท่ามกลางความผันผวนของสถานการณ์ต่างๆ ทั้งจากผลกระทบโควิด สงครามรัสเซีย-ยูเครน ภาวะเงินเฟ้อ ต้นทุนสูง และรวมถึงเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทุกธุรกิจต้องปรับเปลี่ยนทั้งกลยุทธ์และการดำเนินธุรกิจแบบ Turning Point ต้องหาจุดพลิกรอบด้าน ทั้งในเรื่องคุณภาพที่ต้องใส่ใจมากขึ้น ควบคู่ความยั่งยืนที่ลงมือทำ อย่างมีเป้าหมาย และรวมทั้งเรื่องคนที่เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในทุกองค์กร และที่ขาดไม่ได้คือนวัตกรรมใหม่ๆที่ต้องมีเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เป็นยุคที่ต้องรู้ว่า ตลาดขาดอะไร ลูกค้าต้องการอะไร สิ่งไหนที่มี Value ต้องคิดแทนลูกค้าให้ครบรอบด้านทุกมิติการใช้ชีวิต

รองศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร คณบดี คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CBS) กล่าวว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2023 เป็นปีที่ทุกอย่างกำลังจะกลับมาเป็นปกติมากขึ้น และทุกคนกำลังตื่นเต้นไปกับอนาคตที่คืบคลานเข้ามา ธุรกิจที่เคยได้รับผลกระทบจากโควิดกำลังจะกลับมาพลิกฟื้น ส่วนธุรกิจที่ได้รับการตอบรับในช่วงโควิดจากที่เคยเติบโตมากก็จะกลับมาเติบโตแบบปกติ สิ่งที่โควิดทิ้งไว้คือแผลเป็นทางธุรกิจที่ต้องเยียวยาด้วยกลยุทธ์ Flick Strategy Sudden sharp movement คือต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและชาญฉลาด การปรับตัวให้อยู่รอด Agile อย่างรวดเร็ว เช่น ธุรกิจสุขภาพ Wellness จะเติบโตมากขึ้นเพราะทุกคนหันมาใส่ใจสุขภาพที่มากขึ้นกว่าปกติ ทำให้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับสุขภาพเติบโตแบบก้าวกระโดด รวมทั้งธุรกิจการเงิน คนจะเริ่มตระหนักและให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินมากขึ้นจึงทำให้เกิดบริการการเงินใหม่ๆมากมาย และเมื่อสถานการณ์ Onsite มากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนสบายใจขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวจึงดีขึ้นตามมา ธุรกิจโรงแรมก็จะได้รับผลตอบรับที่ดีฟื้นตัวขึ้นท่ามกลางโมเดลบริหารใหม่มาตรฐานใหม่ที่ใส่ใจความสะอาดปลอดภัยมากขึ้น  ในขณะเดียวกันคนจะเริ่มคุ้นชินกับดิจิตอล ออนไลน์หลากหลายรูปแบบมากขึ้น การซื้อของออนไลน์ การประชุมออนไลน์ ฯลฯ ซึ่งเป็นความทรงจำที่เป็นประสบการณ์ในภาวะที่โลกมีความผันผวนอย่างรุนแรง และส่งผลให้บางธุรกิจเติบโตจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จะกลับมาปกติ แต่การซื้อของออนไลน์ที่สะดวกยังคงได้รับความสนใจ

และสำหรับภาพรวมการปรับตัวของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CBS) จากอดีตสู่ปัจจุบันได้มีการปรับตัวอย่างไม่หยุดนิ่ง ตั้งแต่ความสำเร็จในอดีต ที่เป็นรากแก้วที่เรายังคงสืบทอดวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่น         อย่างคณะฯเอง ก็หา Turning Point จุดที่ทำให้ธุรกิจได้ไปต่อ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ผสมผสานของเก่าที่มีคุณค่าอยู่แล้ว เพิ่มเติมของใหม่ที่ตรงกับความต้องการของยุคปัจจุบัน From one generation to the next, combining heritage and innovation เป็น CBS Go inter ทันยุคทันโลก แต่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้อย่างต่อเนื่อง จากเภตราที่ทรงคุณค่า สู่ใบเรือนำชีวิตที่ทันสมัยขึ้น เป็น CBS Flagship for life  ของสังคมไทย ตามวิสัยทัศน์  เพื่อพัฒนาศักยภาพด้านบริหารธุรกิจให้กับประเทศ A World – class business school perceived as the flagship for life และยึดหลักดำเนินงานตามเป้าหมายหลักคือ การเป็นเสาหลักแห่งแผ่นดินด้านการศึกษาทางธุรกิจ The Pillar of the Kingdom in Business Education  ด้วยการยอมรับมากมายในระดับสากลมากมาย สู่ผู้นำด้าน Business School ที่ผลิตบุคลากรด้านการศึกษาภาคธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ซึ่งปัจจุบัน คณะฯ ได้รับการยอมรับในระดับโลกในหลากหลายมิติและมาตรฐานรับรองระดับโลกทั้งจากอเมริกา AACSB และยุโรป EQUIS รวมทั้งการสนับสนุนสร้างกิจกรรมสัมพันธ์ต่อยอดองค์ความรู้กับองค์กรต่างๆ และทั้งนิสิตเก่าดีเด่น ที่จบออกไปเป็นส่วนขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และประเทศชาติ  คุณเจริญ ผู้สัมฤทธิ์เลิศ CEO KPMG Thailand หนึ่งในนิสิตเก่าดีเด่นประจำปี 2565 และคุณพิทักษ์ ลาภปรารถนา ประจำปี 2564  ประธานกลุ่มบริษัทในเครือเฮลท์แลนด์กรุ๊ป ผู้นำด้านธุรกิจ Wellness ที่ยกระดับธุรกิจสปาสู่สากล คุณเจริญ กล่าวเสริมว่า สิ่งที่ได้เรียนรู้จากคณะฯ คือ หลักการทางธุรกิจที่สำคัญและสามารถนำไปปถรับตามยุคตามสมัย มุมมองของคณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคธุรกิจ ที่สามารถนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์ แผนงาน รวมทั้งการบริหารจัดการความท้าทายต่างๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลกธุรกิจ (Resilience) นอกจากนั้น การที่มีเพื่อนเรียนจากหลากหลายวิชาชีพ และหลากหลายองค์กร ทำให้เกิด Business networking ที่ใหญ่ขึ้น และที่สำคัญที่จะทำให้ Networking มีความแข็งแรงขึ้น ในฐานะศิษย์เก่ายินดีและชื่นชมในการเปลี่ยนแปลงของคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีที่ได้ก้าวทันโลกตลอดเวลา

คุณพิทักษ์ กล่าวเสริมว่า เรียนที่นี่ได้ทั้งความรู้และมิตรภาพที่ยั่งยืน และรองศาสตราจารย์ ดร.วิเลิศ ภูริวัชร กล่าวปิดท้ายว่า ปัจุบันในโลกที่มี  ChatGPT   สามารถทำงานแทนพนักงาน และทำการบ้านแทนนิสิต ระบบการศึกษาจึงต้องปรับตัวให้คณาจารย์และระบบการศึกษาให้มีความสามารถเท่าทันหรือเกินคำตอบจาก ChatGPT ซึ่งคุณภาพการเรียนต้องวัดความสามารถในระดับที่ ChatGPT ทำไม่ได้ ซึ่ง ChatGPT เกิดจาก AI ดังนั้นการชนะ AI (Artificial Intelligence) ต้องเป็นการศึกษาระดับ  EI (Emotional Intelligence )  และย้ำถึงสิ่งที่สถาบันการเรียนการสอนด้านธุรกิจ ต้องให้ความสำคัญ เพื่อเป็นแหล่งผลิตบุค

ลากรคุณภาพออกสู่ตลาด ด้วย กลยุทธ์ SHIFT Segmentation by insight : ต้องทำการแบ่งส่วนตลาดใหม่ โดยแบ่งตาม Insight ของคนในช่วงเวลานี้ เพื่อวิเคราะห์หากลุ่มลูกค้าที่ยังเป็นแหล่งรายได้  ซึ่งจากนี้ไปการวัดพฤติกรรมของผู้บริโภคจะไม่ได้แบ่งตามอายุ เพศ วัย รายได้ การศึกษาอีกต่อไป แต่จะดูจากความต้องการของผู้บริโภคเป็นหลัก เช่น ในธุรกิจการศึกษา การเปิดหลักสูตร MBA ไม่ได้เจาะจงกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นเท่านั้น แต่เปิดกว้างให้ทุกเพศ วัย สามารถมาเรียนด้วยกันได้

Holistic Marketing : มีมุมมองในภาพรวม เห็นผลกระทบจากปัจจัยทั้งหมด ทั้งออฟไลน์และออนไลน์

Digital Identity : ต้องมีเอกลักษณ์ให้คนจดจำ โดยเฉพาะอัตลักษณ์บนโลกดิจิทัล เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

Flick Strategy Sudden sharp movement: ต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและชาญฉลาด สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันที

Turning Point: หาจุดที่ทำให้ธุรกิจได้ไปต่อ พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส ผสมผสานของเก่าที่มีคุณค่าอยู่แล้ว เพิ่มเติมของใหม่ที่ตรงกับความต้องการของยุคปัจจุบัน